เทคนิคการโกงไพ่ และ ศัพท์ทางเทคนิค ของ เฮียหลง เซียนไพ่
- รายละเอียด
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 02 กรกฎาคม 2563 12:39
- เขียนโดย ชาลี ประจงกิจกุล
"ไม่แน่ใจว่า หลังจากวางขวดนมแล้ว ระหว่าง ไพ่ กับ ดินสอ ผมจับอะไรก่อนกัน" เฮียหลง นึกทวนความหลัง
คุณจรินทร์ วัฒนากูล (เฮียหลง)
ย้อนไปเมื่อเกือบ 60 ปี ที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ร้านขายทองชื่อ "ร้านทองสวรรค์" เป็นร้านขายทองที่ชาวบ้านให้ความเชื่อถือมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ในอาชีพ ซื้อ-ขายทอง ทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาที่ร้านเป็นประจำ จากลูกค้าก็สนิทสนมกลายเป็นเพื่อน ทั้งวันจะมีคนแวะเวียนมาจับกลุ่มพูดคุยกันไม่ว่างเว้น จากการพูดคุยในเรื่องสัพเพเหระ ก็กลายเป็นชักชวนกันตั้งวงฝึกสมอง เล่นเกม คณิตในใจ โดยมี "ไพ่" เป็นอุปกรณ์เพื่อการศึกษา ประเทืองปัญญา
ทางเจ้าของร้านก็ใจดี จัดมุมพิเศษหลังร้าน ให้เหล่าบรรดานักคณิตศาสตร์ ได้ใช้เป็นที่ติวเลข ฝึกสมองกัน บางครั้งเมื่อว่างเว้นจากการขายทองหน้าร้าน เจ้าของร้านก็ร่วมวงประเทืองปัญญากับเขาด้วยเช่นกัน
จากกลุ่มเล็ก ๆ 5-6 คน ก็ขยับขยายวงใหญ่ขึ้น จนสถานที่ไม่พอ จึงต้องแบ่งเป็นรอบ ๆ ให้นักคณิตศาสตร์ได้หมุนเวียนกันเข้าไปลับสมอง โดยเจ้าของร้านขอคิดค่าสถานที่เป็นรอบ ๆ ไป ตามที่รู้จักว่าเป็น "ค่าต๋ง" และยังใจดี รับแปรรูปทองให้กลายเป็นพันธบัตร หากนักคณิตศาสตร์คิดเลขไม่ทัน
ในแต่ละรอบที่มีการฝึกสมองจะต้องมีเด็กชายตัวเล็กถือขวดนมวิ่งเตาะแตะอยู่ในนั้น ด้วยความเป็นเด็ก และเป็นลูกเจ้าของร้าน เจ้าหนู ด.ช.หลง แซ่อุ้ย หรือชื่อในภาษาจีนไหลำว่า โกเหลี่ยน ก็เป็นที่รักใคร่ของเหล่าบรรดา คุณน้า คุณอา คุณลุง ที่แวะเวียนมาติวเลขกัน
เมื่อถึงวัยที่ต้องเข้าโรงเรียน หลังเลิกเรียน เจ้าหนูหลง (หลง แปลว่า มังกร) ก็ต้องมาคลุกคลีอยู่ในห้องนั้น เกมที่นิยมเล่นกันในสมัยนั้น มีแค่ กบดำ กบแดง ไพ่ป๊อก หรือยี่อิก และเก้าเก ส่วนรัมมี่ ป๊อกแปด ป๊อกเก้า ยังไม่เป็นที่รู้จัก
ด้วยความที่เห็นเขาเล่นกันทุกวัน เจ้าหนูหลงก็ซึมซับทุกอย่างเข้าไปในสมองโดยไม่ได้ตั้งใจ สามารถเล่นได้ทุกเกม เข้าใจทุกกติกา บางครั้ง ลุง ป้า น้า อา ก็วานให้ช่วยถือไพ่ให้ตอนลุกเข้าห้องน้ำ
ด้วยอัธยาศัยอันดีของเจ้าของร้าน และจากปากต่อปาก ทำให้มีผู้คนจากจังหวัดใกล้เคียงแวะเวียนมาร่วมวง ตามปกติแล้วในวงการคณิตศาสตร์นี้ จะไม่รับคนแปลกหน้าเว้นแต่จะมีคนรู้จักแนะนำกันมา คนแปลกหน้าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะหน้าตา ซื่อ ๆ เซื่อง พูดจาสนุก มีความนอบน้อม แต่เบื้องหลังแล้ว เขาคือ "เซียน" ที่ออกเดินสายไปตามที่ต่าง ๆ
เซียนเหล่านี้ไม่สามารถจะสิงสถิตย์อยู่ในเดิมในนาน ๆ เพราะ "หน้าช้ำ" คนไม่กล้าเล่นด้วย จึงจำต้องเดินสายไปที่ใหม่ ๆ หลอกกินเงินเหยื่อใหม่ ๆ ไปเรื่อย หากจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็อยู่ยาว ถ้าเริ่มมีคนสงสัยก็ต้องเปลี่ยนที่สิงสถิตย์ เซียนที่แวะมาที่ร้าน มีทั้งมาจาก จ.อุตรดิตรถ์ พิษณุโลก พิจิตร ฯลฯ
ด.ช.หลง ก็เป็นที่รักของบรรดาเซียนเหล่านี้ เพราะเป็นลูกเจ้าของร้าน เซียนจึงต้องเอาใจเป็นพิเศษ
"เยอะมากครับ เซียนที่แวะมา แต่ละคนเก่ง ๆ ทั้งนั้น ชำนาญกันคนละแบบ ผมเห็นฝีมือแต่ละคนแล้ว ตกใจมากไม่รู้ว่าทำได้ยังไง" เฮียหลง เล่าย้อนความหลัง
"เช่น อู๊ด สุโขทัย ถนัดฟันอุ้ง (ซ่อนไพ่ในอุ้งมือ) ไลค์ ถนัดแจกใบสอง จอร์จ ผมยาวถนัดเปลี่ยนไพ่ เล่นไปเอามือลูบผมไป เอาไพ่ที่ซ่อนในมือไปเก็บไว้ที่ท้ายทอย เมื่อจะใช้ก็ลูบผมอีกครั้ง ส่วน เฮียท้ง ทำแผลสด (ทำให้ไพ่มีตำหนิ ทำเดี๋ยวนั้นเล่นเดี๋ยวนั้น ใช้ไพ่ใครก็ได้ ถ้าเป็น แผลแห้ง คือ ใช้ไพ่ที่ทำตำหนิมาล่วงหน้า) หลายคนที่พูดถึงนี้ ตายไปหมดแล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้แก่ตาย" เฮียหลง บรรยายไป หัวเราะไป
"หลายปีที่ผมคลุกคลีกับพวกเซียน เขาสอนให้บ้าง ครูพักลักจำบ้าง ถ้าถามว่าผมชำนาญเทคนิคไหน ก็คงต้องบอกว่า ถ้าเป็นหมอก็เป็นหมออายุรกรรม คือ เป็นหมด เทคนิคทุกลูก ผมฝึกหมด แต่ไม่ได้เจาะลึก ฝึกทั้ง ล้วง สับ ตัด แจก เอาหมด ผมอ่านไพ่ได้คล่องกว่าอ่านหนังสือ" เขาหัวเราะเสียงดัง
"ตอนเด็ก ในกระเป๋าเรียน นอกจากหนังสือ ดินสอ ยางลบ แล้วก็ต้องมีไพ่หนึ่งสำรับติดไปโรงเรียน เอาไว้ซ้อมแก้เหงามือ หลายครั้งที่ครูเห็น คิดว่าผมเล่นการพนัน หลายต่อหลายครั้งครูต้องเชิญผู้ปกครองให้มาพบ เตี่ยผมก็ต้องไปเคลียร์ทุกครั้ง แต่เตี่ยไม่เคยตำหนิหรือห้ามผมเลย มีแต่พูดว่า เอาไว้เล่นสนุก ๆ ได้ แต่ห้ามเอาไปโกงใคร แล้ววันหลังอย่าให้ครูเห็นนะ"
"เชื่อไหม ตั้งแต่ได้วิชาพวกนี้มา ผมไม่เคยเข้าบ่อนเลย ส่วนใหญ่เข้าแต่วัด" เฮียหลง หยุดพูดเมื่อเห็นผู้เขียนทำท่างง
"คืออย่างนี้ ในต่างจังหวัดเวลามีงานศพ ทางญาติผู้ตายจะผลัดเปลี่ยนกันไปนั่งเฝ้านอนเฝ้าในตอนกลางคืน เฝ้าไปเฝ้ามา คุยไปคุยมา ไม่มีอะไรทำ ก็จะชวนกันตั้งวงเล่นไพ่ ตำรวจก็ไม่มายุ่ง เพราะทำกันเป็นประเพณีแล้ว บางครั้งผมก็จะขอเข้าไปร่วม พอครบกำหนด 3 วัน 5 วัน ใกล้วันเผา ก็จะมีบรรดาเซียนไพ่ไปติดต่อกับญาติผู้ตาย ว่าให้ต่อวันจัดงานออกไป โดยยินดีจะเป็นเจ้าภาพจัดงานให้ และจะมีเงินช่วยทำบุญให้ด้วย ทางญาติเขาก็ตกลง บางครั้งญาติเองนั่นแหละที่ลงมาร่วมเล่นกับเขาด้วย" เขาเล่าถึงที่มาของการเข้าวัด (เรื่องแบบนี้ในต่างจังหวัด ปัจจุบันก็ยังทำกัน - ผู้เขียน)
เมื่อเรียนจบ เฮียหลง ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ แต่อยากจะไปขุดทองที่กรุงเทพฯ มากกว่าขายทองอยู่ที่ร้าน เข้ากรุงเทพฯ ใช้ชีวิตหัวหกก้นขวิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะผันตัวเองไปเป็นเซลล์
"สมัยนั้นผมขายหมด กะปิ น้ำปลา สบู่ ยาสีฟัน ใบมีดโกน ก่อนจะไปอยู่กับพวกบริษัทฝรั่ง บอร์เนียว ดีทแฮลม์ เบอร์ลี่ ฯลฯ ด้วยความที่เป็นเซลล์ ก็ต้องไปติดต่อฝ่ายจัดซื้อตามห้างสรรพสินค้า สมัยนั้นมีแค่ไม่กี่ห้าง เซ็นทรัล ไดมารู พาต้า เวลาไปติดต่อฝ่ายจัดซื้อ ก็ต้องเข้าคิวรอ เพราะมีเซลล์ไปติดต่อเยอะมาก ช่วงที่รอคิว ผมก็ฆ่าเวลาโดยการเดินเล่นไปตามชั้นต่าง ๆ ในห้าง" เขาหยุดเล่า หันมาดื่มกาแฟดำ พอเหลือครึ่งแก้วก็จะเติมน้ำเปล่าลงไป ทำแบบนี้จนกว่ากาแฟจะหมดแก้ว (เรื่องดื่มกาแฟดำผสมน้ำ เป็นความชอบส่วนตัวของ เฮียเหลง) เขาจิบหนึ่งคำ ก่อนจะมาเล่าต่อ
ชาลี ประจงกิจกุล (ผู้เขียน) และ คุณจรินทร์ วัฒนากูล (เฮียหลง)
"เดินไปเดินมา ก็ไปเจอตู้ขายมายากล ด้วยความที่สนใจในเรื่องมหัศจรรย์เป็นทุนเดิมก็เลยแวะเข้าไปดู โอ้โห กรุงเทพฯ มีแบบนี้ด้วยเหรอ ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่มีเวลาว่างก็จะไปเกาะหน้าตู้ พูดคุยกับพนักงานขายกล ซื้อติดมือมาชุดสองชุด จนสนิทสนมกับคนขาย เขาเล่นกลให้ดู ผมก็เล่นไพ่ให้เขาดู ซึ่งเทคนิคในทางไพ่ที่ผมใช้ นักเล่นกลก็ไม่เคยเห็น เช่นพวกเทคนิค ตีลังกา ตอนนั้นนักเล่นกลไม่รู้จัก" (ตีลังกา ในทางมายากลก็คือการ Pass - ผู้เขียน) เขาจิบกาแฟดำผสมน้ำเปล่าอีกครั้ง
"เกาะหน้าตู้ เกาะไปเกาะมา ของเล่นกลเต็มบ้าน เกะกะไปหมด จนเมียบ่นว่า ทำไมไม่ไปเล่นกล จะได้หาเงินหาทองมาเข้าบ้าน จากความคิดนี้ ทำให้ผมได้ไอเดียว่า เออ! ช่วงกลางวันเราเป็นเซลล์ กลางคืนมีเวลาว่าง น่าจะไปหารายได้เสริมนะ" ครั้งนี้เขาดื่มแต่น้ำเปล่า เพราะกาแฟดำหมดไปแล้ว
"ผมลงมือฝึกกล ฝึกแบบงู ๆ ปลา ๆ เพราะไม่รู้จริง ต้องอาศัยเพื่อน ๆ ที่ขายกลช่วยสอนให้ ลงทุนไปตัดสูท ส่วนอุปกรณ์ก็ซื้อบ้าง ทำเองบ้าง หยิบยืมบ้าง ใช้ชื่อการแสดงว่า เจ เมจิก ที่ใช้ชื่อนี้ เพราะย่อมาจากชื่อจริง ชื่อผมคือ จรินทร์ วัฒนากูล ชื่อนี้ไม่ค่อยมีใครอยากให้เข้าวงเหล้า เพราะมัวแต่ จะ-ริน ไม่ยอมรินสักที นั่งทั้งคืนอดดื่มกันเลย" เขาหัวเราะเสียงดัง แล้วเอื้อมมือไปหยิบถ้วยกาแฟ แต่นึกได้ว่าหมดแล้ว เลยหดมือกลับ
"ก็รับแสดงไปทั่ว ได้เงินบ้าง ไม่ได้บ้าง เน้นหาประสบการณ์ เล่นอยู่หลายปี ไม่ดังสักที ถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก เจ เมจิก แม้แต่เมีย ยังไม่รู้จัก (เขาหัวเราะ) จนวันหนึ่ง ได้เจอเพื่อนสมัยที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป" เขาหยุดเล่า เหมือนกับให้คนฟังรอลุ้น
"เพื่อนคนนี้บอกว่า ตอนอยู่นครสวรรค์เอ็งมีฝีมือทางเทคนิคโกงไพ่ เอ็งน่าจะไปออกรายการทีวีนะ คนจะได้รู้จัก หลังจากหยอดปริศนาแล้วเพื่อนคนนี้ก็หายไปนาน จนวันหนึ่ง มันก็มาแวะหาที่บ้าน เฮ้ย กูติดต่อรายการทีวีได้แล้ว รายการเขาสนใจอยากได้คนไปสาธิตการโกงไพ่ เอ็งว่าไง ผมไม่รอให้เขาถามเป็นครั้งที่สอง รีบพยักหน้า แล้วพูดเสียงดังว่า เอาสิว่ะ ที่รีบพูดเพราะกลัวมันเปลี่ยนใจ" เฮียหลง หัวเราะอีกครั้ง
"ผมได้ไปออกรายการ ตีสิบ ของ คุณวิทวัส ตอนนั้นรายการเรตติ้งกำลังพุ่ง เพื่อนคนนี้บอกว่า เอ็งต้องใช้ชื่อ เล็กจันทน์ นะ เพราะเพื่อนชื่อ เล็ก บ้านอยู่จันทบุรี มันอยากให้ชื่อมันได้ออกทีวีกับเขาบ้าง ผมก็เลยใช้ชื่อนั้นเอาใจเพื่อน ประกอบกับช่วงนั้นบ้านเรากำลังฮิตปากสีแดงที่ทำด้วยยาง ผมเลยเอามาใส่ให้ดูขำ ๆ แล้วใช้ชื่อตอนออกรายการว่า เล็กจันทน์ ปากแดง เขาทำปากจู๋ ให้ผู้เขียนดู
"หลังจากนั้นก็มีรายการทีวีติดต่อมาอีก แต่ผมไม่ได้ใช้ชื่อ เล็กจันทน์ ปากแดง แล้ว เปลี่ยนมาใช้ชื่อ เซียนหลง โกงไพ่ ใช้ชื่อนี้อยู่หลายรายการ แต่คำว่า โกงไพ่ มันโป๊ ประเจิดประเจ้อไป เลยเปลี่ยนเป็น เฮียหลง เซียนไพ่ ใช้ชื่อ เจ เมจิก ใช้อยู่หลายปีไม่มีใครรู้จัก แต่พอเปลี่ยนมาเป็นชื่อ เฮียหลง โอ้โห ดังใหญ่เลย รายการโน้น รายการนี้ แย่งกันมาติดต่อ มีทั้ง หักเหลี่ยมโจร กระบี่มือหนึ่ง หม่ำโชว์" เขาชี้ให้ดูรูปภาพตามผนังที่ติดไว้รอบห้อง ด้วยความภูมิใจ
"หลายคนถามว่าเวลาออกรายการ ทำไมผมไม่เคยปิดหน้า ใช้หน้าสดตลอด ผมกล้าเปิดหน้าเพราะผมไม่มีแผล ไม่เคยโกงใคร ไม่เหมือนเซียนบางคน กลัวทีวี กลัวแม้กระทั่งกล้องถ่ายรูป เพราะเขามีแผลเยอะ โจทย์เยอะ มีคนจองกฐินคิวยาว" เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น
"ทุกครั้งที่ออกทีวี ผมจะย้ำเสมอว่า ไม่ได้มาสอนการโกงไพ่ แต่มาสาธิตให้รู้ว่า อย่าไปเล่นไพ่ เพราะจะถูกเขาโกง ทุกวงไพ่จะมีการโกงเสมอ มากบ้าง น้อยบ้าง ใครไม่เชื่อรับรอง มีเงินหมดเงิน มีบ้านหมดบ้าน เหมือนที่โบราณบอกไว้ว่า โจรขึ้นบ้านสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้บ้าน แต่ถ้าผีพนันเข้าสิง นอกจากบ้านไม่เหลือ โฉนดก็ไม่เหลือ ครอบครัว ลูก เมีย พังหมด ผมเห็นมามากต่อมาก ผมถือว่าการไปออกรายการสาธิตวิธีโกงให้คนทั่วไปได้ดู ได้รู้ เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เป็นการช่วยคนขึ้นมาจากนรก แต่ก็แล้วแต่กรรมเวรของแต่ละคนนะ ว่าเขาจะเชื่อหรือเปล่า" เขาเริ่มพูดเหมือนพระเทศน์
"หลังจากออกรายการ มีคนโทร.มาเยอะ มาขอเรียน ผมก็บอกไปทุกครั้งว่า จะสอนเพื่อให้รู้ว่าเขาโกงกันอย่างไร ไม่ได้สอนให้ไปโกงใครนะ ช่วงนั้นมีคนมาที่บ้านเยอะมาก เยอะจนต้องจองคิว" เขาเปิดให้ดูรายชื่อคนที่มาขอเรียน
"เปิดสอนได้สักพัก คนที่มาเรียนก็ยุว่า สอนเยอะแบบนี้ จำกันไม่ไหว ทำไม่ไม่ทำเป็นตำรา จะได้เอาไว้ดูเวลาจะทบทวน พกไปไหนมาไหนก็สะดวก ไอ้ผมก็เป็นคนที่บ้ายุ ใครยุเป็นไม่ได้ ของขึ้น ใช้เวลาเขียนตำราอยู่เกือบปี กว่าจะเป็นรูปเล่ม ข้างในเป็นภาพสีทั้งหมด เผยกลเม็ดเคล็ดลับทุกอย่าง ไม่มีกั๊ก ไม่มีอั้น กลัวคนอ่าน อ่านแล้วไม่เข้าใจ ยังทำแผ่นดีวีดีสอนแทรกไว้ในเล่ม เอาแบบว่า ทั้งดู ทั้งอ่าน" เขาหันไปหยิบหนังสือและแผ่นสอน มาโชว์ให้ดู
"ในเล่มนี้ นอกจากเทคนิคในการโกงไพ่ ผมยังใส่รหัสคำพูดที่รู้กันเฉพาะในวงการให้ด้วย รับรองหาที่ไหนไม่ได้ เพราะไม่มีใครยอมเปิดเผยกัน" เขาชี้คำเหล่านี้ในหนังสือให้ผู้เขียนดู
พูดถึงศัพท์ทางเทคนิคนี้ มีทุกวงการ เป็นคำหรือวลีที่ใช้พูดกันเฉพาะในวงการนั้น ๆ คนภายนอกฟังแล้วจะไม่เข้าใจ ในวงการมายากลก็มี เช่น กิมมิก รูทีน โป้งแปะ (อุปกรณ์นิ้วโป้ง) ฯลฯ ศัพท์ในวงการพนันไพ่นี้ ใช้สื่อสารกันระหว่างเซียนไพ่ด้วยกันเอง ใช้เพื่อเป็นรหัสบอกใบ้ โดยที่คนอื่นในวงไพ่เข้าใจว่าเป็นคำพูดพื้น ๆ ไม่มีนัยยะซ่อนอยู่ แต่ความจริงเป็นการบอกให้ "เริ่มงาน" "ระวัง" หรือ "ให้หนีออกจากวง"
แต่ก่อนอื่น ผู้เขียนจะขออนุญาตพุดถึงการทำงานของ "เซียน(โกง)ไพ่" ว่าเขามีการทำงานอย่างไร เซียนเหล่านี้จะมีการทำงานแบบ "มาคนเดียว" พวกนี้มักจะรู้จักกับเจ้าของสถานที่เป็นอย่างดี และได้รับไฟเขียวให้เข้ามาทำงานได้ บางครั้งจะรับหน้าที่เป็นเจ้ามือ บางครั้งจะแฝงตัวเป็นลูกวง และพวก "มาเป็นทีม" พวกนี้จะมากันอย่างน้อย 2 คน คนหนึ่งจะเป็นเจ้ามือ อีกคนเป็นลูกวง (หน้าม้า) เจ้ามือจะทำเป็นฝ่ายแพ้ แต่จะทำไพ่เพื่อให้ลูกวงได้เงิน ลูกวงจะทำหน้าที่ส่งซิก แอบดูไพ่ในกอง หรือของคนข้าง ๆ จะคอยตัดไพ่ ตรงตำแหน่งที่เจ้ามือได้ทำไพ่ไว้ หรือคอยเปลี่ยนไพ่ของตัวเองกับเจ้ามือ
ผู้เขียนจะลองยกตัวอย่างบางส่วนจากในหนังสือมาให้อ่านกัน (ในหนังสือมีเกือบร้อยอย่าง) คำอธิบายศัพท์เหล่านี้ ผู้เขียนขยายความเอง ผิดถูกอย่างไร ให้เฮียหลงรับไปก็แล้วกันนะ
จัดเล้า - เป็นการจัดฉาก จัดสถานที่ เพื่อหลอกให้เหยื่อ (ลูกหมู) มาเข้าเล้า รอการเฉือด
มีงาน - ส่งสัญญาณให้คนเกี่ยวข้องรู้ว่า ครั้งนี้จะมีการโกง
นักกีฬา - เซียนไพ่รับจ้าง ที่เจ้าของสถานที่จะจ้างมาเพื่อให้โกงเหยื่อ แล้วแบ่งผลประโยชน์กัน
โยนระเบิด - แอบเปลี่ยนไพ่ทั้งสำรับที่เตรียมมา กับไพ่ของเจ้ามือ ซึ่งต้องเป็นยี่ห้อเดียวกัน
ลูกท้อง - แอบแจกใบล่าง (Bottom Deal ในทางมายากล)
ย่นไพ่ - แอบแจกใบที่อยู่ตรงกลาง (Center Deal ในทางมายากล)
อยู่โรงเรียนเดียวกัน - เมื่อรู้ว่าในวง มีเซียนไพ่ที่ไม่รู้จักแฝงตัวมาด้วย ก็ส่งซิกเพื่อให้รู้กันว่า ให้หลีกทาง หรือ แบ่งผลประโยชน์กัน
แจกไพ่แม่เหล็ก - แจกทีเดียวสองใบซ้อน (Double Lift / Double Deal ในทางมายากล)
ฝิ่น - หมายถึงทรัพย์สินที่ลูกวงเอามาเปลี่ยนเป็นเงินเป็นของปลอม เช่นพวกทองคำ หรือ สร้อย นาฬิกา
จับถ่าย - เจ้ามือแอบเปลี่ยนไพ่ของตัวเองกับหน้าม้า (Switch ในทางมายากล)
ส่องกล้อง - แอบดูไพ่คนอื่น หรือไพ่ที่อยู่ในกอง (Glimpse ในทางมายากล)
แผลแตก - ไพ่ที่ทำตำหนิไว้ถูกจับได้ ซึ่งผลลัพธ์มักจะมีแผลแตกตามใบหน้าของผู้ที่โกง (Marked Card ในทางมายากล)
กระเป๋าอู๋ - ส่งสัญญาณเพื่อบอกว่า เหยื่อมีเงินอู้ฟู่
ลูกเสียบ - แอบเสียบไพ่หรือเปลี่ยนไพ่ เข้าในตะเข็บเสื้อ หรือ กางเกง ที่ทำไว้โดยเฉพาะ
สับไพ่น้ำวน - สับไพ่โดยให้ไพ่ทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งเดิม (False Shuffle ในทางมายากล)
เวลาเล่นเป็นหมู เวลาดูเป็นอาจารย์ - หมายถึงพวกที่ดูอยู่นอกวงทำเป็นรู้มาก แต่พอลงไปเล่นเอง กลับไม่ได้เรื่อง
ต้องขอเอามาให้ดูกันเป็นตัวอย่างแค่นี้ เพราะในหนังสือยังมีอีกมาก ยิ่งอ่านยิ่งสนุก มีศัพท์แปลก ๆ ที่นึกไม่ถึง ต้องชมผู้ที่คิดศัพท์เหล่านี้ ลึกซึ้งจริง ๆ
คราวนี้มาลองดูกันว่า ในหนังสือตำราโกงไพ่ของเฮียหลง เขานำเสนออะไรกันบ้าง ผู้เขียนขอใช้ภาพบรรยายแทนตัวอักษร เพราะในภาพแต่ละภาพมีความครบถ้วนในตัวมันเองอยู่แล้ว
(กดที่ภาพเพื่อขยาย)
สำหรับผู้ที่ต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติม ผู้เขียนขอแนะนำหนังสือสี่เล่มนี้ เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาครอบคลุมเทคนิคต่าง ๆ ในวงการพนันไพ่ รวมถึงหลุมพรางต่าง ๆ ที่ในคาสิโนต่าง ๆ ใช้กัน ทั้งสี่เล่มนี้อธิบายได้อย่างละเอียด
The Complete Illustrated Guide to Gambling โดย Alan Wykes
Darwin Ortiz on Casino Gambling โดย Darwin Ortiz
Gambling Scams โดย Darwin Ortiz
พจนานุกรมการพนัน คาสิโน โดย นพพร สุวรรณพานิช
บทความชิ้นนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เชิญชวนท่านเข้าสู่วงการพนัน ในทางกลับกันต้องการให้ท่านที่ยังไม่เคยสัมผัสวงการนี้ ควรหลีกหนีให้ไกล ส่วนท่านที่กำลังลุ่มหลงก็ขอให้เลิกโดยเร็ว ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสายเกินไป ตามที่ เฮียหลง เซียนไพ่ กล่าวไว้ว่า
เจ้าแม่แห่งความชั่วร้าย คือ สิ่งมึนเมา
เจ้าพ่อแห่งความชั่วร้าย คือ การพนัน
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ
ในเรื่องราวของวงการนี้ ติดต่อ เฮียหลง ได้ที่ 08 1448 1983
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ
คุณจรินทร์ วัฒนากูล (เฮียหลง) ที่กรุณามอบความรู้อันมีค่านี้
คุณเกรียงศักดิ์ สถาปนาวงศ์ ผู้ประสานงานให้ผู้เขียนได้สัมภาษณ์
พ.อ.อ.ชัยชนะ โสระสิงห์ (JorTorBALL) ผู้นำบทความนี้ขึ้นสู่เว็บไซต์ให้ได้อ่านกัน
เรียบเรียงโดย ชาลี ประจงกิจกุล