The Vernon Touch
- รายละเอียด
- อัพเดตล่าสุดเมือ วันพุธ, 21 พฤศจิกายน 2561 14:55
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 14 ตุลาคม 2561 12:01
คอลัมน์ The Vernon Touch โดย Dai Vernon จาก Genii Magazine
แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดย Conjuring Arts Platform
กันยายน 1968
ผมคิดว่า เราควรเริ่มต้นบทแรกด้วยการพูดถึงอะไรสักอย่างที่เป็นพื้นฐานทั่วไปของมายากล
มีหลายคนที่มีความต้องการจะดูมายากลหลาย ๆ ช่วงเวลา ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
ช่วงเวลา ที่เราทำการแสดงนั้นสำคัญมาก อย่างที่ Magic Castle ก็เป็นที่แน่นอนว่าทุกคนพร้อมจะชมการแสดง แต่ถ้าหากผู้คนกำลังร้องเพลง เต้นรำ หรือกำลังพูดคุยกันอยู่หละ แล้วมีใครสักคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วพูดว่า "ผมกำลงจะแสดงมายากลนะ ... ช่วยเลือกไพ่ด้วยครับ ... ดูดี ๆ นะครับ ..." สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับมายากล
มายากลจะต้องแสดงอย่างระมัดระวัง ให้ถูกที่ ถูกเวลา ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการสร้างความน่ารำคาญให้ผู้คน
The Magic Castle, 7001 Franklin Avenue, Los Angeles, California, 90028.
คำพูดที่คุณพูดออกมาในระหว่างการแสดงก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นเดียวกัน ถ้าธรรมชาติของคุณเป็นคนตลก แล้วคุณเล่าเรื่องตลกจนผู้คนระเบิดเสียงหัวเราะลั่นหรือหัวเราะจนตกเก้าอี้ไป คุณก็อาจจะเป็นคนตลกที่เล่าเรื่องขบขันและแสดงมายากลได้ แต่ถ้าหากคุณเล่าเรื่องตลกแล้วมีคนเบือนหน้าหนี ทำหน้าสงสัยหรือไม่มีใครหัวเราะ แล้วยิ่งคุณพยายามแสดงมายากลให้ดูตลก สิ่งเหล่านี้คือหายนะ
ผมมีเพื่อนจาก New York ที่แสดงมายากลพลังจิต เขาพูดอะไรกับใครก็น่าเบื่อไปเสียหมด ... มันไม่ได้เกี่ยวกับมายากลนะ เขาแสดงมายากลดี Francis Carlyle ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับมายากลกล่าวว่า ไม่เคยมีใครเขียนหนังสือการจัดการเกี่ยวกับมายากลเลย การจัดการทุก ๆ สิ่งเป็นเรื่องสำคัญ คุณอาจจะรู้เทคนิคดี แต่ในทางมายากล ฉันกลับคิดว่าสิ่งที่สำคัญคือวิธีการจัดการ หลาย ๆ คนไม่รู้วิธีจัดการเมื่อเขากำลังแสดงมายากล
อีกสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนนักมายากลจำนวนไม่น้อยไม่ค่อยตระหนักถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ คือผมจะเปรียบเทียบว่า ไม่มีสักครั้งในชีวิตที่จะพบว่ามีนักร้องเสียง Baritone (ช่วงเสียงระดับกลางของนักร้องชาย - ผู้แปล) ลุกขึ้นมาร้องเพลง On the Road to Mandalay จบ หลังจากจบเพลงก็มีคนกระโดดขึ้นแล้วพูดว่า "โอเค นักเปียโน เล่นอีกครั้ง" ... แล้วหลังจากนั้นเขาก็ร้องเพลง On the Road to Mandalay โดยที่นักร้องจริง ๆ ไม่ต้องร้อง นักเต้นไม่ต้องลุกขึ้นเต้น
เมื่อมีใครสักคนเล่าเรื่องตลก เขาจะไม่บอกมุกนั้นอีกครั้งกับคนกลุ่มเดียวกัน เขาอาจจะอ้างว่า "เล่าได้ไม่เหมือนเดิม" หรือ "เรื่องเดิม เล่าไปก็เหมือนเดิม" เพราะจริง ๆ เขาไม่สามารถนำผู้ฟังเข้าไปสู่จุดที่สำคัญอีกครั้งได้
นักมายากลหลายคนอาจจะตอบรับว่า "ได้ ฉันจะแสดงอีกครั้ง คุณอาจจะจ้องจับผิดว่าผมทำยังไง ลองมาดูกันว่าผมทำยังไง" สำหรับผู้ชมแล้ว เขาก็แค่ได้เห็นทริคเดิม และผมคิดว่าผู้แสดงก็ช่างทึ่มเสียเหลือเกินที่แสดงมายากลทริคเดิมให้ผู้ชมกลุ่มเดิม
ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างนักมายากลมืออาชีพและนักมายากลสมัครเล่น คือ นักมายากลมืออาชีพทราบว่า effect ของกลนั้นคืออะไร เขาทราบว่าผู้ชมจะได้รับรู้อะไร ซึ่งมันไม่สำคัญว่าการแสดงจะอิงเทคนิควิธีที่ซับซ้อนแค่ไหน ตราบใดที่ effect ที่ยอดเยี่ยมนั้นถูกนำไปใช้ ส่วนนักมายากลมือสมัครเล่นจะยึดติดที่เทคนิควิธีการ ยิ่งถ้าวิธีการนั้นละเอียด ลึกล้ำและสุดยอดเพียงใดเขายิ่งชอบ เขาอาจจะชอบทริคนั้นมากโดยไม่ได้คำนึงถึงสิ่งอื่น ตัวผู้แสดงเองอาจจะยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาแสดงอะไร ตราบใดที่เขารู้สึกว่าเขากำลังแสดงเทคนิควิธีการที่สุดยอด สวยงาม ต้องฝึกฝนนาน แต่สำหรับผม ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี
มันอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อนะ แต่ผมจะเปรียบเทียบว่า มันคล้ายกับการวาดภาพระบายสี บางคนอาจวาดภาพแล้วรู้สึกว่ามันสวยงาม คนอื่นมองก็ชมว่า "สวยงามมาก ภาพนี้สวยจัง" เพราะเขาอาจจะใช้สีที่ดีที่สุดในโลก ผ้าที่แพงที่สุดในโลก นั่งวาดในสตูดีโอที่สวยงาม ท่ามกลางหมอกควันจาง ๆ แล้วไง ใครจะสนใจหละ! เพราะผู้คนรับรู้ที่ภาพ นี่คือสิ่งที่นักมายากลมืออาชีพเป็นกัน เขาเห็นภาพอย่างภาพที่ผู้ชมเห็น ซึ่งนักมายากลสมัครเล่นยังขาดจุดนี้อยู่ นี่คือสิ่งที่นักมายากลหลายคนต้องระวัง นักมายากลควรมองการแสดงของตัวเองอย่างที่ผู้ชมมอง
สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ ลักษณะการแสดงที่เราแสดง เราเริ่มแสดงมายากลที่ยอดเยี่ยมและจบการแสดงลงอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นควรตามด้วยมายากลเบ็ดเตล็ดตามความเหมาะสม นึกถึงมายากลดั่งการละเล่น ซึ่งมีจุดเริ่มต้น จุดกึ่งกลาง จุดลงท้าย จุดสุดยอดหรือจุดไคลแม็กซ์ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมายากล cups and balls จึงกลายเป็นกลที่เหนือกาลเวลา เพราะเริ่มต้นแนะนำอุปกรณ์ด้วยการวางถ้วยไปเรื่อย ๆ ต่อด้วยการแสดง effect เล็ก ๆ ที่ไม่ซ้ำเดิม ใส่มุกตลกเล็กน้อย เรื่อยไปจนถึงจุดไคลแม็กซ์ ผลออกมาจึงมีเรื่องราวและจบด้วยตัวมันเองอย่างที่การแสดงควรจะเป็นเช่นนั้น
Hieronymus Bosch: The Conjurer, 1475-1480
เพื่อนนักมายากลทั้งหลายล้วนมีมายากลที่ยอดเยี่ยม จึงควรศึกษาเทคนิคการแสดงอย่างละเอียด เมื่อถึงคราวแสดง ผู้ชมจะมองเห็นเราครั้งแรกด้วยการประเมินเราจากสายตา แล้วรู้สึกว่า เราดูเป็นคนปกติธรรรมดาหรือเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ หรือเป็นคนสนุกสนานไหม นั่นเป็นทัศนคติด้านการพิจารณาคนจากสายตาของคนที่พบกันครั้งแรก ทั้งนี้เพราะแรกเริ่มเราไม่สามารถพูดคุยด้วยกันได้ทันที จึงต้องแยกแยะผู้คนผ่านการมองเห็น ถ้าหากได้พูดคุยกันก็จะทราบว่าเขาเป็นคนแบบไหน ความคิดความอ่านเป็นอย่างไร เมื่อเรามีจังหวะโอกาสได้พูดคุย ได้แนะนำตัว ได้ทักทายอย่างเป็นมิตร ถึงจุดนี้ การแนะนำตัวเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด เราอาจเริ่มต้นพูดคุยแล้วแสดงอะไรบางอย่างและปิดท้ายการสนทนาด้วยความให้คู่สนทนารู้สึกประหลาดใจ ซึ่งเป็นแบบแผนทั่วไปของนักมายากลสำหรับการทำความรู้จักกันครั้งแรก การดึงการแสดงให้อ่อนลงในช่วงกลางและจบอย่างแข็งแรงเป็นสูตรสำเร็จในการผสมผสานการแสดงเข้าด้วยกัน
หนึ่งในสุดยอดไอดอลของผมอย่าง Hofzinser ครั้งหนึ่งเขาบอกในการแสดงของเขาว่า "การแสดงชุดนี้ จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญมาก ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะยังไม่เคยมีความผิดพลาดในการแสดง แต่ก็อย่าเพิ่งคาดหวังเช่นนั้นเสมอไป" ในอีกความหมายหนึ่งคือ ถ้าคุณยังไม่เข้าใจการแสดงของคุณมากพอแล้วแสดงชุดนั้นไป คุณก็จะไม่เข้าใจ effect ของมั้นใช่ไหม
มีบางคนใช้มายากลเป็นการสร้างความสนุกสนาน เขาเริ่มต้นด้วยการหามายากลที่เขาสามารถแสดงได้ ไม่ได้แม้จะศึกษาสักเพียงเล็กน้อย เขาคิดว่าเขาทำได้ อาจจะทดลองสักครั้ง สองครั้งหรือสามครั้ง เราอาจต้องเลือกว่าคุณจะต้องการแสดงอะไร ศึกษาว่าเราจะจัดการมันเช่นไร ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณจะแสดงด้วยผ้าเช็ดหน้าเพียงผืนเดียวแล้วเริ่มต้นการแสดงด้วยการโชว์ผ้าเช็ดหน้าทั้งสองด้าน แต่คุณต้องฝึกฝนเป็นอย่างดี แสดงในสิ่งที่คุณเตรียมการแสดงมา และนำเสนออย่างน่าประทับใจ คุณอาจจะต้องฝึกฝนทักษะมากหน่อย ถ้าหากการแสดงต้องในทักษะ เช่น การซุกซ่อนบางอย่าง ให้ทำแล้วดูเป็นธรรมชาติ หลักจากนั้นแล้วคุณต้องผสมทุกส่วนให้เข้าถึงกันทั้งหมด คุณอาจต้องฝึกฝนถึงสองหรือสามสัปดาห์ และคิดทบทวนไปมาว่า มันสมบูรณ์ดีแล้วหรือยัง สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ดีหรือยัง สามารถเล่าเรื่องสนุกขนขันลงไปในการแสดงได้ลงตัวหรือยัง ฉันจะเริ่มต้นการแสดงอย่างไร จุดกลางเรื่องราว และจะจบลงอย่างไร
ครั้งหนึ่ง เพื่อนของ Dr. Daley (นักมายากลชื่อดังของสมัยนั้น - ผู้แปล) กล่าวว่า "ปัญหาอย่างหนึ่งของนักมายากลทั่ว ๆ ไปคือการมีรสนิยมที่ไม่ค่อยดี" มันเป็นความจริงทีเดียว รสนิยมของมายากลนั้นสื่อได้จากหลาย ๆ สิ่ง ตั้งแต่รสนิยมการเลือกอุปกรณ์ รสนิยมในการแต่งตัว รสนิยมในการเลือกใช้คำพูด รสนิยมในทุก ๆ สิ่งเลย ดังนั้น หากคุณต้องการจะพัฒนาการแสดงของคุณให้ดีขึ้น คุณต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดของทุก ๆ สิ่ง สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาการแสดงของคุณให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อนผมบางคน เมื่อเริ่มต้นศึกษามายากล โดยการเริ่มจากมายากลไพ่ก่อน เขาต้องการเริ่มฝึกด้วย second deal (เทคนิคในการแจกไพ่แบบหนึ่ง - ผู้แปล) เพราะเขาทึ่งกับเทคนิคนี้ แล้วเขาควรทำอย่างไรบ้าง ถ้าเขาทุ่มเทการฝึกฝนเทคนิคนี้อยู่ 20 ปี แต่เขาไม่สามารถนำไปแสดงให้ใครชมได้หละนี่คือสิ่งที่ไม่ควรหมกมุ่นเทคนิคอย่างเดียว เว้นเสียแต่ว่าเป็นการฝึกเพื่อความบันเทิงส่วนตัวของเขาเอง
มันมีหลายเรื่องมากจริง ๆ คุณควรจะถามผมนะ คุณควรจะรู้ว่าคนอื่น ๆ กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อครั้งเด็ก ๆ ตอนที่ผมยังไม่มีชื่อเสียง ผมอาศัยอยู่คนเดียวในส่วนหนึ่งของ Canada ผมใช้เวลาเป็นปี ๆ ในการรอเพื่อที่จะได้พบนักมายากลสักคนหนึ่งที่มาเปิดการแสดงที่นี่ อย่าง Leipzig หรือ Nelson Downs หรือ Thurston ได้พูดคุยและได้ถามคำถามต่าง ๆ นับร้อยข้อเกี่ยวกับศิลปะมายากล คำตอบแม้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กระตุ้นจิตใจและช่วยผมได้เป็นอย่างมาก
ผมได้รับคำถามจาก David Bornstein จาก Denmark เขาต้องการทราบว่า การแสดงชุดไหนที่ผมเลือกที่จะแสดงให้กับคนดูทั่ว ๆ ไป สำหรับกลุ่มหญิงล้วน และสำหรับนักมายากล เราจะมาพูดคุยกันเรื่องนี้ในฉบับหน้า ในระหว่างนี้ ส่งคำถามเกี่ยวกับมายากลที่คุณสงสัย ทั้ง move บุคลิกลักษณะ หรือบางช่วงบางตอนของมายากล ผมจะตอบให้อย่างดีที่สุด เขียนแล้วส่งมาให้ผมที่ The Magic Castle, 7001 Franklin Avenue, Los Angeles, California, 90028.
อ้างอิง
- https://geniimagazine.com/wiki/index.php?title=Vernon_Touch
ภาพประกอบบทความ
- http://martaonthemove.com/wp/79magiccastle
- http://www.flickr.com/photos/17453487@N05/4916839252
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cups_and_balls
- https://nexusthemes.com/wordpress-themes-1002/magician-wordpress-theme-387
- ต่อไป
- ต่อไป >>